เป้าหมาย
- เพื่อส่งเสริมศักยภาพในการป้องกันเอดส์ให้กับประชาชน โดยเน้นการเสนอทางเลือกในการลดความเสี่ยงที่หลากหลาย และสอดคล้องกับวิถีชีวิตของแต่ละกลุ่มบุคคล
- เพื่อส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้มีเชื้อเอชไอวี และครอบครัว โดยการผลักดันให้เกิดสวัสดิการทางสังคมที่เท่าเทียม และเพียงพอต่อการรองรับปัญหาที่ผู้มีเชื้อต้องเผชิญ
- เพื่อส่งเสริมให้เกิดความเข้าใจในสังคมต่อผู้มีเชื้อเอชไอวี และครอบครัวโดยการลดอคติ การรังเกียจ และการเลือกปฏิบัติที่มีต่อผู้มีเชื้อเอชไอวี ตลอดจนการปกป้องสิทธิ และโอกาสของผู้มีเชื้อเอชไอวีและครอบครัว
o
สำนักงานกรุงเทพ
เริ่มก่อตั้งเมื่อปี 2536 ในช่วงที่เริ่มมีสถานการณ์การแพร่ระบาดของเอดส์ และพบปรากฏการณ์ของการรังเกียจ
แบ่งแยกผู้ติดเชื้อเอชไอวี โดยเริ่มให้บริการผ่านการให้คำปรึกษาทางโทรศัพท์แบบนิรนาม
จนกระทั่งพัฒนามาเป็นสายฮอตไลน์ปรึกษาเรื่องเอดส์ในปัจจุบัน
ปัจจุบันสำนักงานกรุงเทพเน้นการดำเนินงานหลักในการรณรงค์วงกว้างทั้งในระดับสาธารณะ นโยบายระดับประเทศ
โดยมุ่งเน้นการส่งเสริมการเข้าถึงการรักษา และการป้องกันเอดส์ผ่านกิจกรรมต่างๆ เช่น การเคลื่อนไหวนโยบาย
เพื่อการเข้าถึงการรักษา, การเคลื่อนไหวเพื่อคัดค้านการทำข้อตกลงเขตการค้าเสรีหรือเอฟทีเอที่มีผลกระทบต่อสุขภาพ,
การจัดกิจกรรมส่งเสริมการป้องกัน เช่นการประกวดหนังสั้นเรื่องเอดส์ เป็นต้น
· งานของเรา
เมื่อ “เอดส์” คือปัญหาหนึ่งในสังคมไทย เราจึงพบว่า...
- ผู้ที่มีเชื้อเอชไอวีจำนวนมาก เมื่อรู้ว่าติดเชื้อ ไม่มีทางออก ไม่มีข้อมูล ไม่กล้าบอกใคร หลายรายปล่อยให้ตัวเองเจ็บป่วย
หลายรายไม่สามารถอยู่ร่วมกับครอบครัว ชุมชน ถูกลิดรอนสิทธิ และถูกรังเกียจ
- มีคนจำนวนมากที่ยังคงมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้ป้องกัน มีความกังวลว่าจะเสี่ยงต่อการรับเชื้อเอชไอวี แต่ไม่รู้ว่าจะหาข้อมูล
หรือข้อเท็จจริง เพื่อที่จะหาทางจัดการกับความกังวลนั้นได้อย่างไร
- กว่า 80% ของการติดเชื้อเอชไอวีมีสาเหตุมากจากการมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้ป้องกัน แต่กลับพบว่า
มีผู้หญิงจำนวนมากไม่กล้าพูดเรื่องเพศ คนจำนวนมากไม่กล้าพกถุงยางอนามัย วัยรุ่นมีเพศสัมพันธ์เร็วขึ้น
และเด็กไม่ได้รับโอกาสในการเรียนรู้เรื่อเพศที่รอบด้าน
- คนส่วนใหญ่ในสังคมไทย ยังมองเรื่องเอดส์ เป็นเรื่องของความโชคร้าย มองคนที่มีเชื้อเอชไอวีว่าเป็นคนที่น่าสงสาร
การสงเคราะห์จึงเป็นทางออก แต่ไม่ยั่งยืน
- “เอดส์” ยังถูกบอก และสื่อสารในสังคมผ่านแง่มุมด้านลบ เช่นการเน้นย้ำว่าเอดส์เป็นโรคที่รักษาไม่หาย,
คนที่ติดเชื้อคือคนบางกลุ่มที่มีพฤติกรรมไม่ดี หรือการใช้ภาพผู้ป่วยที่ดูน่ากลัวมานำเสนอเป็นต้น
ส่งผลให้คนที่มีเชื้อเอชไอวีหมดหวัง ไม่ออกมาเข้ารับบริการรักษา รวมทั้งยังส่งผลให้คนอื่นในสังคมเกิดความรังเกียจ
และไม่อยากอยู่ร่วมกัน
เพื่อทำให้เกิดความเข้าใจใหม่ในเรื่องเอดส์ “แอคเซส” จึงคิดค้นงานเพื่อคลี่คลายปัญหาดังนี้
Ø
บริการให้คำปรึกษาที่สำนักงานและทางโทรศัพท์
กรุงเทพ โทร 1663 ตั้งแต่ 09.00 น. ถึง 21.00 น. ทุกวัน
ให้บริการสำหรับ
a. ผู้ที่มีความกังวลต่อการรับเชื้อเอชไอวี
b. ผู้มีเชื้อเอชไอวี / ผู้ป่วยเอดส์และครอบครัว
c. ผู้ใช้ยาเสพติดและครอบครัว
d. คนที่รักเพศเดียวกัน, มีเพศสัมพันธ์กับเพศเดียวกัน และครอบครัว
Ø
การจัดอบรมผู้ปฏิบัติงานด้านเอดส์ทั้งหน่วยงานรัฐและเอกชน
จัดอบรมทั้งในด้านวิชาการ ทัศนคติและทักษะเพื่อการเข้าใจต่อรากฐานปัญหาเอดส์
เพื่อนำไปสู่การดำเนินงานเอดส์ได้อย่างมีทิศทางและสอดคล้องกับสภาพปัญหา
Ø
การให้การศึกษาเพื่อสร้างความเข้าใจเรื่องเอดส์กับประชาชนกลุ่มต่างๆ
- การจัดกิจกรรมการเรียนรู้เรื่องเอดส์ และเพศศึกษาในชุมชน และโรงเรียน
- การผลิตสื่อรูปแบบต่างๆ เช่นนิทรรศการ ภาพถ่ายผู้มีเชื้อเอชไอวี “คือเรา” หนังสือ “คือความเข้าใจ”
คู่มือการดูแลสำหรับผู้มีเชื้อ คู่มือยาต้านไวรัสเอชไอวี รวมทั้งโปสเตอร์รณรงค์ในโอกาสต่างๆ สารคดีและรายการโทรทัศน์
และสปอตวิทยุสำหรับการออกอากาศ รวมถึงหนังสือเสียงสำหรับผู้พิการทางสายตาด้วย
Ø
การผลักดันในเชิงนโยบายด้านสังคมที่มีผลต่อการแก้ปัญหาเอดส์
- ร่วมมือกับเครือข่ายผู้ติดเชื้อเอชไอวี ผลักดันให้เกิดระบบบริการรักษาด้วยยาต้านไวรัสและโรคฉวยโอกาสต่างๆ
ในระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า
- พัฒนาและส่งเสริมให้กลุ่มผู้ติดเชื้อเข้ามามีบทบาทในการร่วมเป็นผู้ให้บริการในโรงพยาบาล
ภายใต้โครงการศูนย์บริการองค์รวม
- ผลักดันให้พรรคการเมืองมีนโยบายและทิศทางการแก้ไขปัญหาเอดส์- ผลักดันให้ราคายาถูกลง สนับสนุนให้รัฐใช้มาตรการทางกฎหมายเช่น มาตรการบังคับใช้สิทธิ (CL) เพื่อนำไปสู่การเข้าถึงยารักษาโรคได้อย่างทั่วถึงและเท่าเทียม
Ø
การจัดกิจกรรมระดมทุน
- จัดวางกล่องระดมทุนเพื่อสร้างการมีส่วนร่วมของสังคม เพื่อสนับสนุนการทำงานของมูลนิธิ ฯ
Ø
งานสร้างเครือข่ายระดับภูมิภาค (ลุ่มน้ำโขง)
- จัดหลักสูตรอบรมด้านเอดส์สำหรับคนทำงานเอดส์ในหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนรวมทั้งผู้มีเชื้อเอชไอวี
ในระดับภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง เช่น ลาว เวียดนาม พม่า เขมร จีน และเนปาล
- จัดการดูงาน แลกเปลี่ยนประสบการณ์ระหว่างประเทศในประเด็นต่างๆ เช่น การลดอันตรายจากการใช้สารเสพติด,
การทำงานของผู้ติดเชื้อในชุมชนเป็นต้น
Ø
ประกวดหนังสั้นเรื่องเพศและเอดส์ โครงการ “หนังม่านรูด”
เพื่อเป็นการส่งเสริมให้เกิดการสื่อสารเรื่องเพศในสังคม เพื่อนำไปสู่การป้องกันตนเองจากการรับเชื้อเอชไอวี
Ø
สร้างความเข้าใจกับชุมชนเรื่องการทดลองวัคซีนเอดส์
เพื่อเป็นการเตรียมพร้อมให้ชุมชนได้มีความรู้ความเข้าใจในเรื่องเอดส์ รวมทั้งเตรียมชุมชนให้เข้าไปมีส่วนร่วม
ในโครงการทดลองวัคซีนต่างๆ โดยมีพื้นที่การทำงาน 2 จังหวัดคือ จ.ระยอง และ จ.ชลบุรี
Ø
รณรงค์สร้างความเข้าใจในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับเรื่องเอดส์และสุขภาพ
- รณรงค์ให้ข้อมูลกับประชาชนและสื่อมวลชนในเรื่องข้อตกลงทางการค้าที่ส่งผลกระทบต่อระบบสุขภาพ
โดยเน้นเรื่องเขตการค้าเสรี (Free Trade Area : FTA ) ที่มีผลต่อการเข้าถึงการรักษาและยาของประชาชน
- ผลักดันให้รัฐใช้มาตรการทางกฎหมายเพื่อลดอุปสรรคต่อการเข้าถึงยา ทำให้ยาราคาถูกลง
เช่น มาตรการบังคับใช้สิทธิ (Compulsory License)
Ø
การทำงานร่วมกับเครือข่ายผู้มีเชื้อเอชไอวี/เอดส์ ประเทศไทย
เพื่อพัฒนาศักยภาพของผู้มีเชื้อ ทั้งองค์ความรู้ และทักษะ ที่นำไปสู่การพัฒนาการทำงานของเครือข่ายฯ
รวมทั้งยังร่วมมือเพื่อผลักดันนโยบายต่างๆที่เกี่ยวข้องกับเรื่องเอดส์ร่วมกัน
Ø
โครงการเพื่อการป้องกันและส่งเสริมการเข้าถึงการรักษา ภาคใต้
- เพื่อค้นหาแนวทางการทำงานเพื่อการส่งเสริมการป้องกันเอดส์โดยเฉพาะในบริบทสังคมมุสลิม
- เพื่อพัฒนารูปแบบการส่งเสริมการเข้าถึงการรักษาของผู้ใช้สารเสพติดที่เป็นผู้ติดเชื้อเอชไอวี
Ø
ส่งเสริมการจัดการเรียนรู้เรื่องเพศศึกษาในโรงเรียน
- เพื่อสนับสนุนและส่งเสริมการจัดการเรียนรู้เรื่องเพศศึกษาในโรงเรียนโดยผนวกเข้าเป็นหลักสูตรของสถานศึกษา
ผ่านโครงการก้าวย่างอย่างเข้าใจ
- เพื่อส่งเสริมการพัฒนาเยาวชนเชิงบวก
- เพื่อสร้างทัศนคติในทางบวกต่อเพศศึกษาให้กับผู้ปกครอง สนับสนุนการพูดคุยเรื่องเพศศึกษาในครอบครัวอย่างเข้าใจ